Artwork

Nội dung được cung cấp bởi Soul Food Ministries. Tất cả nội dung podcast bao gồm các tập, đồ họa và mô tả podcast đều được Soul Food Ministries hoặc đối tác nền tảng podcast của họ tải lên và cung cấp trực tiếp. Nếu bạn cho rằng ai đó đang sử dụng tác phẩm có bản quyền của bạn mà không có sự cho phép của bạn, bạn có thể làm theo quy trình được nêu ở đây https://vi.player.fm/legal.
Player FM - Ứng dụng Podcast
Chuyển sang chế độ ngoại tuyến với ứng dụng Player FM !

สดแต่เช้า Ep.268เหนื่อยนักก็พักหน่อย! (คริสต์มาสแล้ว!)

6:57
 
Chia sẻ
 

Manage episode 457212838 series 3264869
Nội dung được cung cấp bởi Soul Food Ministries. Tất cả nội dung podcast bao gồm các tập, đồ họa và mô tả podcast đều được Soul Food Ministries hoặc đối tác nền tảng podcast của họ tải lên và cung cấp trực tiếp. Nếu bạn cho rằng ai đó đang sử dụng tác phẩm có bản quyền của bạn mà không có sự cho phép của bạn, bạn có thể làm theo quy trình được nêu ở đây https://vi.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (268)

เหนื่อยนักก็พักหน่อย!

(คริสต์มาสแล้ว!)

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก

จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก!”

~มัทธิว 11:28 THSV11

“Come to me, all you who are weary and burdened,

and I will give you rest.”

~Matthew 11:28 NIV

คริสต์มาสนี้ คือเวลาที่เราทุกคนควรจะได้หยุดพักหายเหนื่อย!

แต่โพลเปิดเผยว่า คนไทยเราเหนื่อยกันมาก!

คำถามว่า “แล้วคนไทยเหนื่อยกับอะไรมากสุดในปี 2567 ?”

วันที่22 ธันวาคม 2567(2024) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน

เรื่อง ‘เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้างในปี 2567 ที่ผ่านมา‘

(ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ)

และพบว่า ตัวอย่าง

1.ร้อยละ 39.92 ระบุว่า ค่อนข้างมีความสุข

เพราะมีความสุขทั้งกับตัวเองและครอบครัว ชีวิตการทำงานก็ราบรื่น ไม่มีอุปสรรค

2. ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสุข เพราะมีปัญหาทางการเงินที่เกิดจากค่าครองชีพ

ที่สูงขึ้น และรู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายของสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน

3.ร้อยละ 18.17 ระบุว่า มีความสุขมาก เพราะการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น

สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวล และ

4.ร้อยละ 9.39 ระบุว่าไม่มีความสุขเลย เพราะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินสะสม การใช้ชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบากและไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนเหนื่อยหน่ายในปี 2567

พบว่า ตัวอย่าง

1).ร้อยละ 52.14 ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่

2).ร้อยละ 28.09 ระบุว่า ปัญหาภัยไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การแฮ็กข้อมูล

3).ร้อยละ 27.86 ระบุว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทั้งในและนอกสภา

4).ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด

5).ร้อยละ 14.89 ระบุว่า ปัญหาราคาพลังงาน

6).ร้อยละ 13.59 ระบุว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยทางธรรมชาติ

7). ร้อยละ 13.44 ระบุว่า ปัญหาสุขภาพ โรคระบาด

8).ร้อยละ 12.98 ระบุว่า ปัญหาอาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

9).ร้อยละ 12.90 ระบุว่า ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร

*10).ร้อยละ 12.75 ระบุว่า ไม่เหนื่อยหน่ายกับอะไรเลย

11). ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคม

12).ร้อยละ 9.85 ระบุว่า ปัญหาการคอร์รัปชันในทุกระดับ

13).ร้อยละ 9.69 ระบุว่า ปัญหาการจราจร

14). ร้อยละ 5.57 ระบุว่า ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม

15).ร้อยละ 4.81 ระบุว่า ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมในระบบราชการ และ

16).ร้อยละ 2.06 ระบุว่า ปัญหาสงคราม ความขัดแย้งในต่างประเทศ

น่าสนใจในคนไทย 100คน มีคนราว 12~13คน ที่ตอบด้วยความมั่นใจว่า

พวกเขาไม่เหนื่อยหน่ายกับอะไรเลย!

น่ายินดี ที่ คนไทยร้อยละ 18.17 ระบุว่า มีความสุขมาก!

แต่ก็น่าเป็นห่วงหน่อยที่

1. ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสุข

2.ร้อยละ 9.39 ระบุว่าไม่มีความสุขเลย

รวม2กลุ่มนี้ 32.52+9.39 ‎ = 41.91%

แสดงว่าจำนวนคนไทยที่มีความทุกข์นั้น มีมากกว่าจำนวนคนมีความสุข

เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูง และความเป็นอยู่ที่ยากลำบากจนก่อเกิดหนี้สิน

ผมก็ไม่ทราบว่า ในปีหน้า แต่ละคนจะรวยขึ้น หรือมีเงินทองเพิ่มมากขึ้น ได้อย่างไร?

เพียงแต่ผมรู้ว่า ถ้าในวันคริสต์มาสนี้ พี่น้อง

1.รู้จักกับพระเยซูคริสต์

2.เชื่อศรัทธาใน“องค์พระคริสต์“อย่างแท้จริง

3.มอบความเหน็ดเหนื่อยและภาระหนักที่แบกมาตลอดไว้กับพระองค์

4.มีความใกล้ชิดสัมพันธ์สนิทกับพระองค์เป็นประจำทุกวัน นับจากนี้ เป็นต้นไป

ผมกล้ายืนยันว่า พี่น้อง จะมี“ความสุขแท้”หรือ“สันติสุข”ได้ ในทุกสถานการณ์

1).ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือมีเงินน้อย และ

2).ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในไทยและในโลกจะเป็นอย่างไร?

…ลองดูสิครับ!

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

24ธันวาคม 2024

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

915 tập

Artwork
iconChia sẻ
 
Manage episode 457212838 series 3264869
Nội dung được cung cấp bởi Soul Food Ministries. Tất cả nội dung podcast bao gồm các tập, đồ họa và mô tả podcast đều được Soul Food Ministries hoặc đối tác nền tảng podcast của họ tải lên và cung cấp trực tiếp. Nếu bạn cho rằng ai đó đang sử dụng tác phẩm có bản quyền của bạn mà không có sự cho phép của bạn, bạn có thể làm theo quy trình được nêu ở đây https://vi.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (268)

เหนื่อยนักก็พักหน่อย!

(คริสต์มาสแล้ว!)

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก

จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก!”

~มัทธิว 11:28 THSV11

“Come to me, all you who are weary and burdened,

and I will give you rest.”

~Matthew 11:28 NIV

คริสต์มาสนี้ คือเวลาที่เราทุกคนควรจะได้หยุดพักหายเหนื่อย!

แต่โพลเปิดเผยว่า คนไทยเราเหนื่อยกันมาก!

คำถามว่า “แล้วคนไทยเหนื่อยกับอะไรมากสุดในปี 2567 ?”

วันที่22 ธันวาคม 2567(2024) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน

เรื่อง ‘เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้างในปี 2567 ที่ผ่านมา‘

(ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ)

และพบว่า ตัวอย่าง

1.ร้อยละ 39.92 ระบุว่า ค่อนข้างมีความสุข

เพราะมีความสุขทั้งกับตัวเองและครอบครัว ชีวิตการทำงานก็ราบรื่น ไม่มีอุปสรรค

2. ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสุข เพราะมีปัญหาทางการเงินที่เกิดจากค่าครองชีพ

ที่สูงขึ้น และรู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายของสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน

3.ร้อยละ 18.17 ระบุว่า มีความสุขมาก เพราะการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น

สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวล และ

4.ร้อยละ 9.39 ระบุว่าไม่มีความสุขเลย เพราะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินสะสม การใช้ชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบากและไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนเหนื่อยหน่ายในปี 2567

พบว่า ตัวอย่าง

1).ร้อยละ 52.14 ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่

2).ร้อยละ 28.09 ระบุว่า ปัญหาภัยไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การแฮ็กข้อมูล

3).ร้อยละ 27.86 ระบุว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทั้งในและนอกสภา

4).ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด

5).ร้อยละ 14.89 ระบุว่า ปัญหาราคาพลังงาน

6).ร้อยละ 13.59 ระบุว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยทางธรรมชาติ

7). ร้อยละ 13.44 ระบุว่า ปัญหาสุขภาพ โรคระบาด

8).ร้อยละ 12.98 ระบุว่า ปัญหาอาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

9).ร้อยละ 12.90 ระบุว่า ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร

*10).ร้อยละ 12.75 ระบุว่า ไม่เหนื่อยหน่ายกับอะไรเลย

11). ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งในสังคม

12).ร้อยละ 9.85 ระบุว่า ปัญหาการคอร์รัปชันในทุกระดับ

13).ร้อยละ 9.69 ระบุว่า ปัญหาการจราจร

14). ร้อยละ 5.57 ระบุว่า ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม

15).ร้อยละ 4.81 ระบุว่า ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมในระบบราชการ และ

16).ร้อยละ 2.06 ระบุว่า ปัญหาสงคราม ความขัดแย้งในต่างประเทศ

น่าสนใจในคนไทย 100คน มีคนราว 12~13คน ที่ตอบด้วยความมั่นใจว่า

พวกเขาไม่เหนื่อยหน่ายกับอะไรเลย!

น่ายินดี ที่ คนไทยร้อยละ 18.17 ระบุว่า มีความสุขมาก!

แต่ก็น่าเป็นห่วงหน่อยที่

1. ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความสุข

2.ร้อยละ 9.39 ระบุว่าไม่มีความสุขเลย

รวม2กลุ่มนี้ 32.52+9.39 ‎ = 41.91%

แสดงว่าจำนวนคนไทยที่มีความทุกข์นั้น มีมากกว่าจำนวนคนมีความสุข

เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูง และความเป็นอยู่ที่ยากลำบากจนก่อเกิดหนี้สิน

ผมก็ไม่ทราบว่า ในปีหน้า แต่ละคนจะรวยขึ้น หรือมีเงินทองเพิ่มมากขึ้น ได้อย่างไร?

เพียงแต่ผมรู้ว่า ถ้าในวันคริสต์มาสนี้ พี่น้อง

1.รู้จักกับพระเยซูคริสต์

2.เชื่อศรัทธาใน“องค์พระคริสต์“อย่างแท้จริง

3.มอบความเหน็ดเหนื่อยและภาระหนักที่แบกมาตลอดไว้กับพระองค์

4.มีความใกล้ชิดสัมพันธ์สนิทกับพระองค์เป็นประจำทุกวัน นับจากนี้ เป็นต้นไป

ผมกล้ายืนยันว่า พี่น้อง จะมี“ความสุขแท้”หรือ“สันติสุข”ได้ ในทุกสถานการณ์

1).ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือมีเงินน้อย และ

2).ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในไทยและในโลกจะเป็นอย่างไร?

…ลองดูสิครับ!

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

24ธันวาคม 2024

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

915 tập

Toate episoadele

×
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน คุณเลือกอะไร? Ep.1178 กาลเวลาทำให้ความรู้สึกที่เรามีต่อเรื่องต่างๆในชีวิตเป็นยังไงบ้าง? ยิ่งเรื่องขอพระเจ้า เวลาทำให้เราอยากจะรัก รู้จักพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์มากขึ้นหรือน้อยลง 'ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล และในสมัยนั้นคนเผ่าดานยังแสวงหาที่ดินอันจะเป็นมรดกของตนเพื่อจะได้พักอาศัย เพราะจนบัดนั้นแล้วมรดกในเผ่าอิสราเอลยังไม่ตกแก่เขา ' ผู้วินิจฉัย 18:1 เรื่องราวของวันนี้ทำให้ต้องใช้เวลาค้นคว้าหลายเรื่องเพื่อจะคลายความสงสัย และสร้างความกระจ่างให้ตัวเอง เผ่าดานยังแสวงหาที่ดินที่จะเป็นมรดกที่จะอาศัยอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมสงสัยประการแรก คือนานแค่ไหนที่เขายังไม่ได้รับแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้ ถ้าเราย้อนกลับไปดูพระธรรมโยชูวา 19 บอกว่าเผ่าดานได้รับแล้ว แต่ในพระธรรมผู้วินิจฉัย 1 ได้แสดงให้ถึงความล้มเหลวที่เผ่าดานไม่สามารถยึดครองได้ เผ่าดานจึงถูกคนอาโมไรดันขึ้นไปอยู่บนเขา สิ่งที่ค้นหาข้อมูลมาได้ ระยะเวลานั้นคือประมาณ 200 ปี ฟังถูกแล้วครับ 200 ปี คำถามที่เราต้องคิดต่อคือ พระเจ้าไม่รักษาสัญญาของพระองค์หรือเปล่า? ผมจะตอบว่าไม่ใช่ เป็นข้อสันนิฐานจากผมว่าที่เผ่าดานไม่ได้รับเพราะพวกเขาไม่กล้า พวกเขาอาจจะมีความกลัวคนเหล่านั้นอยู่ อยากให้กำลังใจพวกเราว่า อย่าให้ความกลัวมาทำให้เราขัดขืน ฝ่าฝืนพระทัยของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็เป็นพระเจ้าที่ให้อิสระกับเราที่จะเราเลือก ทุกสิ่งที่เราเลือกจะมีผลตามมาเสมอ 'เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ และทรงสมควรรับการสรรเสริญอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเป็นที่เกรงกลัวเหนือพระทั้งปวง ' สดุดี 96:4 'ความยำเกรง องค์พระผู้เป็นเจ้า นำไปสู่ชีวิต เขาจะอิ่มหนำและพักสงบปราศจากความทุกข์ร้อน ' สุภาษิต 19:23 ขอให้เราเลือกที่จะเกรงกลัวพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ผู้ทรงซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อถ้อยคำหรือพระสัญญาของพระองค์เสมอ ขอให้เราเลือกให้ถูก หากเราเลือกที่จะอยู่ในพระสัญญาของพระเจ้า ทางของพระองค์นั้นจะนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นและปราศจากความทุกข์ร้อน ฟังให้ดีๆนะครับ ปราศจากความทุกข์ ไม่ใช่ปราศจากปัญหานะครับ แต่ปัญหาที่มีนั้นจะไม่ทำให้เราเป็นทุกข์ แต่เราจะมีสันตืสุขและมั่นใจว่าพระเจ้าที่รักเราและเรารักพระองค์นั้นจะเป็นผู้นำและทำให้เราเห็นวิธีการแก้ปัญหาในแบบของพระองค์ และพระเจ้าจะเป็นผู้ประทานความสุขใจให้กับเราที่ยึดมั่นอยู่ในพระองค์ พระเจ้าของเรา วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (304) หมอฟันของพระเจ้า! “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’ ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คน ชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย” ~มัทธิว 5:38-39 THSV11 “ You have heard that it was said, ‘Eye for eye, and tooth for tooth.’ But I tell you, do not resist an evil person. If anyone slaps you on the right cheek, turn to them the other cheek also.” ~Matthew 5:38-39 NIV มาร์ติน ลูเธอร์ คิง กล่าวว่า “ ถ้าเราใช้ระบบตาแทนตาและฟันแทนฟัน เราจะกลายเป็นประเทศชาติของคนตาบอดและคนฟันหลอ” (If we do an eye for an eye and a tooth for a tooth, we will be a blind and toothless nation.) พระเยซูคริสต์ ทรงบัญชาไม่ให้เราทำชั่วตอบแทนคนชั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่า 1.ทำชั่วมากหรือ 2.เลวร้ายยิ่งกว่าที่คนอื่นกระทำต่อเรา แต่ขอให้เราทำในสิ่งที่จะช่วยให้การตอบโต้หรือต่อสู้เลาะฟันกันและกันนั้น ยุติลงโดยเร็ว (แม้ว่าเราอาจจะเสียเปรียบบ้างก็ตาม) ดังนั้น แทนที่เราจะทำร้ายหรือทำลายฟันของผู้ใด เราควรทำหน้าที่ 1.ซ่อมแซม และ 2.รักษาฟัน ซึ่งเปรียบเหมือนสัมพันธภาพที่มีต่อกัน จะดีกว่า! ขอให้เรามาเป็นทันตแพทย์ของพระเจ้า ที่ใช้ความรู้ความสามารถและทักษะของเรา ในการบรรเทา ช่วยเหลือและสร้างมิตรภาพกับคนทั้งหลายรวมทั้งคนไข้และศัตรูของเรา และ ถ้าเราเป็นทันตแพทย์มืออาชีพจริงๆ ก็ขอให้คำอธิษฐานต่อไปนี้ เป็นคำอธิษฐานจากความตั้งใจของเรา คำอธิษฐานของทันตแพทย์ ~Dentist’s Prayer~ (Ramona K.Cecil เขียน; ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ แปล) “ ข้าแต่พระเจ้า... ขอสถิต ชิดใกล้ ในทุกวัน ยามข้าฯนั้น ทำทันต์ บริการ เพื่อคนไข้ ผู้วางใจ ได้ชื่นบาน สุขสำราญ สมชื่อ มือนิ่มนวล (Lord, be with me daily as I practice dentistry. May I treat with gentle hands all who put their trust in me.) “ขอให้ข้า มั่นใจ ในอุ้งหัตถ์ ช่วยขจัด หวั่นใจ ในตัวเขา ให้กังวล ผู้ใหญ่ ได้แบ่งเบา ให้ผู้เยาว์ น้ำตา ลาหายไป (May my calm assurance help to ease their fears, To relax the tense adults and dry the children's tears.) “ขอให้ข้า เก่งกล้า น่าศรัทธา พร้อมรับหน้า บรรดา เคสยากยาก เพียงอดทน แก้ไข ไม่ลำบาก ปากต่อปาก พอใจ ในฝีมือ (May I treat each patient with competence and skill, whether a difficult procedure or a tooth that I must fill.) “ขอให้ข้า รักษา เยียวยาเลิศ ปัญญาเกิด วินิจฉัย ได้ถูกต้อง พระสถิต กิจชำนาญ งานแคล่วคล่อง ยิ้มสวยของ คนไข้ ใช่รางวัล! (As I diagnose and treat, Lord, be with me all the while, and reward me with my patient's lovely, healthy smile.) …เป็นอย่างนี้ จะอาเมนไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 29มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (303) ความรับผิดชอบ: ” Responsibility” & “Accountability” “ให้ทุกคนถือว่าเรา เป็นคนเช่นนี้คือเป็นเหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์ และ เป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้น บรรดาผู้รับมอบฉันทะย่อมได้รับการคาดหวังว่าต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้” ~1 โครินธ์ 4:1-2 THSV11 “This, then, is how you ought to regard us: as servants of Christ and as those entrusted with the mysteries God has revealed. Now it is required that those who have been given a trust must prove faithful.” ~1 Corinthians 4:1-2 NIV เราต้องมีความรับผิดชอบในฐานะผู้รับมอบฉันทะ ทั้ง 1).ต่อพระเจ้า 2).ต่อตัวผู้อื่น และ 3).ต่อตัวเราเอง คำว่า “ความรับผิดชอบ”ที่โดดเด่นมี2คำคือ 1.ความรับผิดชอบ 1).ในการลงมือทำตามหน้าที่ หรือ 2).ในการตอบสนอง ที่เรียกว่า” Responsibility 2.ความรับผิดชอบ 1).ต่อผลที่เกิดขึ้นจากการทำตามหน้าที่ หรือ การตอบสนองของเรา 2).ต่อการในการให้เหตุผลที่น่าพึงพอใจได้ สำหรับ ก.สิ่งที่ได้ทำลงไป และ ข.ระดับ(ผลกระทบ)ของสิ่งที่เกิดขึ้น เรียกว่า “Accountability” นั่นคือนอกจาก 1.เราต้องรับผิดชอบใน ”การกระทำ” หรือ “การไม่กระทำ”ของเรา 2.เรายังต้องรับผิดชอบใน “ผลของการกระทำ”หรือ“ผลกระทบจากการไม่กระทำ“ของเรา คือเราต้องสามารถรายงานผลที่เกิดขึ้นตามมาได้อย่าง ชัดเจน ถูกต้อง เป็นจริง และ โปร่งใส แบบเป็นที่น่าพึงพอใจของผู้รับรายงาน วันนี้ คุณคิดว่า คุณเป็น คนรับใช้ หรือ ผู้รับมอบฉันทะในการดูแลภารกิจ ที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้หรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บทบาทหน้าที่ 1).ภายในบ้าน หรือครอบครัว 2).ภายในคริสตจักร 3).ภายในวงการคริสเตียน 4).ภายในที่ทำงาน หน่วยงาน หรือองค์กร 5).ภายในชุมชนสังคม ประเทศชาติ หรือโลกนี้ ในพระธรรมตอนนี้กล่าวถึงความรับผิดชอบ ในการ 1.ดูแลรักษาสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า นั่นก็คือ ประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ที่ช่วยไถ่ มวลมนุษยชาติให้รอดจากบาปและความตาย 2.ประกาศข่าวประเสริฐนั้นอย่างซื่อสัตย์และเป็นชีวิตจิตใจ 3.ฝึกฝนผู้เชื่อคนอื่นๆให้กระทำอย่างเดียวกัน 4.แต่งตั้งหรือมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบในการกระทำพันธกิจนี้ให้แก่คนที่ซื่อสัตย์ ที่จะทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ผิดเพี้ยนจากความจริงหรือจากที่ได้รับมอบหมาย พี่น้องที่รัก 1.ความรับผิดชอบในการกระทำ อย่าง Responsibility ~ที่เราต้องรับไปกระทำ และ 2.ความรับผิดชอบในผลจากการกระทำของเรา อย่าง Accountability ~ที่เราต้องรายงานอย่างโปร่งใส ทั้ง2 นี้ล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญของความเป็นผู้นำ เหมือน ดังที่ John Miller กล่าวว่า “ ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เรากระทำ เป็นรูปแบบสูงสุดของความเป็นผู้นำ!“ "Accountability is the highest form of leadership." วันนี้ คุณมี คุณลักษณะที่มีคุณธรรม ของผู้นำ ที่รับผิดชอบและไว้วางใจได้ 100% เหมือนดังที่กล่าวมาแล้ว …หรือยังครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 28มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (302) ความสุขสงบ? “เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย” ~ยอห์น 14:27 THSV11 “Peace I leave with you; my peace I give you. I do not give to you as the world gives. Do not let your hearts be troubled and do not be afraid.” ~John 14:27 NIV พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาที่จะมอบ สันติสุข ให้แก่เรา ซึ่งเป็น ความสุขสงบ ที่ไม่ใช่ความสุขสันติอย่างที่โลกนี้รู้จัก หรือสามารถให้ได้ Karl Paul Reinhold Niebuhr (1892-1971) หรือเรียกสั้นๆว่า“ไรน์โฮลด์ นีบัวร์“( Reinhold Niebuhr) เป็นนักศาสนศาสตร์ อาจารย์โรงเรียนพระคริสตธรรม นักจริยธรรม นักอรรถาธิบายการเมือง ชาวอเมริกัน ท่านมีผลงานชิ้นเยี่ยมเป็นที่รู้จักกันทั่วหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นเกี่ยวกับคำอธิษฐาน ขอความสุขสงบ ที่มีชื่อว่า Serenity Prayer (คำอธิษฐานขอความสุขสงบ) “God grant me the serenity to accept the things I cannot change; courage to change the things I can; and wisdom to know the difference.” (ขอพระเจ้า ทรงประทานใจสงบให้แก่ฉัน ที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ขอพระเจ้าทรงประทานความหาญกล้าให้แก่ฉัน ที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ฉันอาจเปลี่ยนแปลงได้ และขอพระองค์ประทานสติปัญญา ที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างของทั้งสองสิ่งนั้นได้!) “Living one day at a time; enjoying one moment at a time; accepting hardships as the pathway to peace; taking, as He did, this sinful world as it is, not as I would have it;“ (ขอให้ฉันอยู่ได้วันต่อวัน ให้เพลิดเพลินได้ทีละช่วงเวลา ให้ยอมรับความยากลำบากว่าเป็นหนทางสู่สันติสุข ให้ยอมรับโลกที่เปี่ยมด้วยบาปนี้อย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่ฉันอยากให้เป็น) “trusting that He will make all things right if I surrender to His Will; that I may be reasonably happy in this life and supremely happy with Him forever in the next.“ (ขอให้ฉันวางใจว่าพระองค์เจ้าจะทำให้สิ่งทั้งปวงล้วนถูกต้อง ถ้าฉันยอมจำนนต่อน้ำพระทัยของพระองค์ เพื่อฉันจะได้มีความสุขในชีวิตนี้ และ มีความสุขมากยิ่งขึ้นตลอดไปในโลกหน้า) Amen. (อาเมน) พี่น้องที่รัก วันนี้คุณมีสันติสุขหรือมีความสงบสุขในใจแล้วหรือยัง? คำอธิษฐาน ที่เรียกว่า “ Serenity Prayer”(คำอธิษฐานขอความสุขสงบ) ข้างต้นนั้น ช่วยอะไรคุณได้บ้างหรือไม่? ขอให้ นับจากนี้ไป คุณจะรับมือกับ “สิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง” หรือ “สิ่งที่ยากลำบาก” 1.ในชีวิตและ 2.ในการรับใช้ ของคุณ ได้ง่ายขึ้นนะครับ! ขอให้คุณมีความสงบสุขได้ในทุกที่ แม้แต่ในที่ที่มีเสบียงกรัง เพียงเล็กน้อย เหมือนดังที่พระธรรม สุภาษิตกล่าวว่า “เสบียงกรังหน่อยหนึ่งพร้อมกับความสงบสุข ดีกว่าบ้านที่เต็มด้วยงานเลี้ยงพร้อมกับการวิวาท” ~สุภาษิต 17:1 THSV11 (A dry crust of bread eaten in peace and quiet is better than a feast eaten where everyone argues.) …อาเมนไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 27มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (300) ขอสอนให้นับวัน! “ขอทรงสอนข้าพระองค์ทั้งหลายให้นับวันของตน เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีจิตใจที่มีปัญญา” ~สดุดี 90:12 THSV11 “Teach us to number each of our days so that we may grow in wisdom.” ~Psalms 90:12 GW ศ.ดร. นิพนธ์ คันธเสรี แปล/เรียบเรียงกลอนกวีบทหนึ่ง ที่ผมอ่านแล้วชอบมานานแล้ว จึงขอนำมาแบ่งปันแก่พี่น้องทุกท่าน ในชื่อเรื่องว่า "นับพระพรแห่งชีวิต" ”@ จงนับสวนด้วยจำนวนดอกไม้ ใช่ด้วยใบที่ร่วงหล่น @ จงนับวันด้วยชั่วโมงแห่งความสุข ใช่ด้วยทุกข์ที่ขมขื่น @ จงนับคืนด้วยดวงดาว ใช่ด้วยเงามืดที่ลางเลือน @ จงนับเดือนปีที่รอยยิ้ม ใช่ด้วยรอยพิมพ์คราบน้ำตา @ จงนับพระพรแห่งความชื่นชม ใช่ความขื่นขมระทบใจ @ จงนับอายุขัยด้วยจำนวนมิตร ใช่ด้วยคิดเป็นเดือนปี!“ พี่น้องที่รัก ชีวิตเราในโลกนี้ แสนสั้นยิ่งนัก เมื่อเปรียบกับนิรันดรกาล และช่วงชีวิตนั้นก็กำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว! เหมือนดังที่กล่าวไว้ในพระธรรมสดุดี ที่ว่า “วันเวลาทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลายหมดไปใต้ความเกรี้ยวกราดของพระองค์ ปีของพวกข้าพระองค์สิ้นสุดลงอย่างเสียงถอนหายใจ อายุขัยของข้าพระองค์ทั้งหลายคือเจ็ดสิบ หรือหากแข็งแรงก็ถึงแปดสิบ แต่ช่วงชีวิตนั้นมีแต่ความลำบากและความเศร้าโศก ไม่ช้าก็สูญไปและพวกข้าพระองค์ก็จากไป” ~สดุดี 90:9-10 THSV11 ขอให้คุณรู้จักนับวันคืน ที่เหลืออยู่ในชีวิตของคุณ และใช้ประโยชน์ในแต่ละวันอย่างสูงส่งและสูงค่า ด้วยความฉลาดอย่างมีสติปัญญา เหมือนดังที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดี ทูลขอจากพระเจ้าว่า “ขอทรงสอนข้าพระองค์ทั้งหลายให้นับวันคืนของตน เพื่อจะได้มีจิตใจที่กอปรด้วยสติปัญญา” ~สดุดี 90:12 TNCV และสิ่งที่ควรหนุนใจพวกเราเป็นอย่างมาก ก็คือ พระเจ้าทรงนับเส้นผมของเราไว้แล้วทุกเส้น หากว่าผมของเราแต่ละเส้นยังมีค่าและความสำคัญอย่างมากในพระทัยของพระเจ้า แล้วชีวิตของเราจะไม่ล้ำค่าในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างไร? ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคำหนุนใจจากพระวจนะของพระคริสต์ที่ว่า “ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว” ~ลูกา 12:7 THSV11 “Even every hair on your head has been counted. Don’t be afraid! You are worth more than many sparrows.” Luke 12:7 GW ดังนั้น เราจึงไม่เหลืออะไรให้ต้อง 1.วิตกกังวล หรือ 2.กลัวอีกต่อไปเลย จริงไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 25มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน อย่าทึกทักเอาเอง Ep.1177 บทที่ 17 ของพระธรรมผู้วินิจฉัยได้ทำให้เราเห็นถึงความเสื่อมถอยของศีลธรรมอย่างมากในช่วงเวลานั้น ไม่รู้ว่าผมจะมองแบบติดลบมากเกินไปหรือเปล่า ว่าในยุคนี่ก็มีความเสื่อมเกิดมากขึ้นในหมู่ผู้เชื่อ ผู้เชื่อในเวลานี้จำนวนไม่น้อยที่ไม่ค่อยสนใจต่อถ้อยคำของพระเจ้า จะรับเอาหรือเชื่อเพียงส่วนที่ตัวเขาอยากจะรับหรืออยากจะเชื่อฟัง หรือคิดว่าทำแล้วจะได้รับพระพร และพวกเขาเชื่อว่าการได้มาซึ่งอำนาจ วัตถุสิ่งของ ก็ทึกทักเอาเองว่า สิ่งนั้นเป็นการอวยพระพรของพระเจ้า 'ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ทุกคนก็ทำตามที่ตนเองเห็นชอบ ' ผู้วินิจฉัย 17:6 คนก็เสื่อมถอยทางศีลธรรมอย่างมากเพราะไม่มีผู้นำ มีคาห์ขโมยเงินแม่ตัวเอง เมื่อแม่สาปแช่งก็เอาเงินไปคืน เมื่อได้คืนแม่ก็เอาเงินส่วนหนึ่งไปถวายพระเจ้าเพื่อทำรูปเคารพ โดยไม่สนใจว่านี่คือคำสั่งห้ามของพระเจ้า แล้วมีคาห์ก็นำรูปเคารพนั้นไปที่บ้าน ทำเป็นเหมือนห้องพระเพื่อนมัสการพระเจ้าที่บ้านตัวเอง ทั้งๆที่พระเจ้าตั้งสถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้าไว้แล้ว และพระเจ้าแต่งตั้งคนตระกูลเลวีเพื่อทำหน้าที่ในการปรนนิบัติพระเจ้า แต่มีคาห์กลับตั้งลูกชายเป็นปุโรหิตโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้เลย และต่อมามีคนเลวีจริงๆเดินทางมา 'มีคาห์จึงกล่าวกับเขาว่า “จงอยู่กับข้าพเจ้าเถิด และจงเป็นบิดาและปุโรหิตของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าเองจะให้เงินท่านปีละ 10 แผ่น ให้เสื้อผ้าสำรับหนึ่ง และอาหารด้วย” คนเลวีนั้นจึงเข้าไป คนเลวีนั้นก็พอใจที่จะอยู่กับมีคาห์ และคนเลวีก็เป็นเหมือนลูกคนหนึ่งของเขา ' ผู้วินิจฉัย 17:10-11 มีคาห์ก็ออกปากจ้างปุโรหิต โดยสัญญาจะให้สิ่งจำเป็นกับเขา เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและเสื่อมอย่างมากที่คนเลวีเองก็รับที่จะอยู่กับมีคาห์ คนของพระเจ้ายังไม่สนใจถ้อยคำของพระเจ้าว่า เขาเองจะต้องทำหน้าที่ในพลับพลาของพระเจ้า ในเรื่องนี้ดูเหมือนว่ามีคาห์ทึกทักเอาเองว่า การมาอยู่ด้วยของคนเลวีคือการได้รับพรจากพระเจ้า 'มีคาห์กล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าทราบแล้วว่าพระยาห์เวห์จะทรงดีต่อข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีเลวีคนหนึ่งเป็นปุโรหิต”' ผู้วินิจฉัย 17:13 ไม่ว่าเราจะอยู่ในบริบทของผู้ตามหรือผู้นำก็ขอให้เราเองจะยึดมั่นเชื้อฟังพระเจ้า ผู้นำเองก็อาจจะอยากได้ความมั่นคงในชีวิตจึงยอมทำตามความต้องการของผู้ตามเพื่อจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ขอให้เราระลึกไว้เสมอว่า การยึดมั่นเชื่อฟังทำตามถ้อยคำของพระเจ้าคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่าการถวายหรือพิธีกรรมที่หรูหราสง่างาม ดูศักดิ์สิทธิ์ การอวยพระพรที่แท้จริงนั้นมาจากการเชื่อฟังทำตามพระทัยของพระเจ้า อย่าทึกเอาเองว่าการขัดต่อถ้อยคำของพระเจ้าจะยังนำพระพรมาให้ “แต่ซามูเอลโต้ตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยในเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชา ยิ่งกว่าการเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? การเชื่อฟังนั้นดียิ่งกว่าเครื่องบูชา การสดับฟังก็ดีกว่าการถวายไขมันของแกะผู้” 1ซามูเอล 15:22 TNCV สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัยไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราจะนำมาถวาย แต่เป็นหัวใจที่ยอมจำนนและเชื่อฟังพระองค์ทุกประการ ความมั่นคงในชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ขอให้เรารู้ว่าความมั่นคงที่สุดในชีวิตของเรานั้น อยู่ในพระเจ้าผู้มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (301) ถ้าจน…ไม่ให้แต่ง! “คนที่รักความบันเทิงจะเป็นคนจน คนที่รักเหล้าองุ่นและน้ำมันจะไม่มั่งคั่ง” ~สุภาษิต 21:17 THSV11 “Those who love pleasure end up poor; lovers of wine and oil won’t get rich.” ~Proverbs 21:17 CEB มีคนส่งเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง มาให้ผม มีชื่อเรื่องว่า “ทำไมลูกสาวบิล เกตส์ ถึงแต่งกับคนจนไม่ได้?🩷😍🥰 เรื่องราวเป็นดังนี้ มีคนถามบิล เกตส์ ว่า “คุณซึ่งรวยที่สุดในโลก จะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายจนๆ ไหม?” บิล เกตส์บอกว่า.. “ความมั่งคั่งไม่ใช่การมีเงินในบัญชีเยอะๆ แต่มันคือความสามารถในการสร้างความร่ำรวยต่างหาก” เขายกตัวอย่างว่า ”คนที่ถูกรางวัลลอตเตอรี่ ต่อให้ได้เงินเป็นร้อยล้าน แต่ส่วนใหญ่ 5 ปีต่อมา เขาจะก็กลับมาจนเหมือนเดิม เพราะพวกเขาไม่รู้วิธีจัดการเงิน (Money Management) ในทางกลับกัน คนที่ดูเหมือนจะไม่มีเงินเลย เช่น เจ้าของธุรกิจใหม่ๆ แต่เมื่อเขากำลังพัฒนาความรู้ทางการเงิน นั่นแหละคือ “รวย” ที่แท้จริง แล้วอะไรคือ ความต่างระหว่างคนรวยกับคนจน? …คนรวยคือคนที่พร้อมที่จะลุยเพื่อรวย แต่คนจนบางครั้งเลือกทางลัด เช่น ขโมยหรือทำร้ายคนอื่นเพื่อได้เงิน …คนรวยมองว่าตัวเองต้องเรียนรู้และหาข้อมูลเพื่อพัฒนาชีวิต แต่คนจนคิดว่าต้องรอให้คนอื่นมาช่วย!“ . บิล เกตส์เล่าเรื่องของยามคนหนึ่งที่เจอกระเป๋าเงินเต็มๆ แต่เลือกคืนให้ธนาคาร ตอนนั้นคนอื่นต่างด่าเขาว่าโง่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยามคนนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานต้อนรับไปเป็นผู้บริหารระดับสูง ของธนาคาร!” . ใช่ครับ บิล เกตส์ ไม่ได้กล่าวว่า คนจนคือคนไม่มีเงิน แต่คนจนคือคนที่มีทัศนคติและความคิดที่ว่า ตัวของเขาไม่มีความสามารถ ในการสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตัวเอง! และคนจนแบบนี้ล่ะ คือคนที่บิลเกตส์เขาไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาไปแต่งงานด้วยเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้ “ความรวย“ หรือ ”ความจน“ จึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับ ~จำนวนเงิน หรือ ~ทรัพย์สิน แต่เป็นเรื่องที่เริ่มต้น ออกมาจาก ~ใจ หรือ ~ความคิด หรือ ทัศนคติ ของเราตัวเรานั่นเอง ดังนั้น ขอให้เราอย่าสิ้นคิด หรือ คิดสั้น เอาแต่สนุกบันเทิง มึนเมา หรือ มัวเมากับสิ่งใด จนทำให้เรา ดักดาน อยู่กับที่ และ ยากจน อย่างน่าเสียดาย (ทั้งๆที่มีศักยภาพและโอกาส) แต่ขอให้เรา เป็นคน คิดเป็น ทำเป็น เพื่อที่เราจะกลายเป็นคนร่ำรวยมากยิ่งขึ้น ในวันหน้า เหมือนดัง คำกล่าวที่ว่า “ความร่ำรวยมั่งคั่ง คือ ผลผลิตของความสามารถที่จะคิดของมนุษย์!” “Wealth is the product of a man’s capacity to think.” — Ayn Rand วันนี้ ขอให้เรามาพัฒนาความคิดของเราให้ 1.คิดสิ่งดีๆ และ 2.สร้างสรรค์ ด้วยความกล้าหาญ เหมือนดังที่ อาจารย์ เปาโล แนะนำไว้ว่า “สุดท้ายนี้พี่น้องทั้งหลาย ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง” ~ฟีลิปปี 4:8 THSV11 …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 26มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน พระเะจ้าทรงฟังเสมอ Ep.1176 แซมสันได้อยู่ในบทบาทผู้วินิจฉัย 20 ปี แม้ว่าการเกิดมาของเขาจะอศัจรรย์ มีข้อบังคับสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง เมื่อทำตามสิ่งที่ได้รับมาคือพละกำลัง แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือเขาไม่รักษาชีวิตในข้อบังคับ หรือทำตามธรรมบัญัญติของพระเจ้าหลายครั้ง จนพระเจ้าจากเขาไป ทำให้พละกำลังที่มีก็หมดไปด้วย แซมสันถูกจับ ถูกทำให้ตาบอด ทำให้พระของคนฟิลิสเตียได้รับคำสรรเสริญ ในงานเลี้ยงฉลองนั้นทำให้พวกเขามีความสุข คนฟิลิสเตียจึงเรียกแซมสันมาเพื่อเล่นตลกให้ดู ไม่ได้พามาเล่นตลกจริงๆ แต่นำมาให้เห็นสภาพของแซมสัน ตาบอด หัวโล้น คือเอามาล้อเลียน หัวเราะเยาะทำให้อับอาย แซมสันเองได้บอกเด็กที่จูงมือพาเขามาว่า พาเขาไปที่เสาที่รับน้ำหนักของตึกเพื่อจะได้พิงเสานั้น ในงานเลี้ยงนั้นมีคนประมาณ 3,000 คน มาดู มาหัวเราะเยาะเขา 'แซมสันก็ร้องทูลพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ ขอประทานกำลังแก่ข้าพระองค์ครั้งนี้อีกครั้งเดียว เพื่อข้าพระองค์จะได้แก้แค้นคนฟีลิสเตียเพื่อตาสองข้างของข้าพระองค์” ' ผู้วินิจฉัย 16:28 ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด เราสามารถจะร้องทูลกับพระเจ้าได้ พระเจ้ายังคงฟังคำอธิษฐานของเราเสมอ ขอเพียงเราต้องกลับใจและอธิษฐานกับพระเจ้าด้วยความจริงใจ 'ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย ' 2 พงศาวดาร 7:14 สิ่งที่เราต้องรู้และย้ำเตือนในใจเสมอคือ เราเป็นลูกของพระเจ้า เป็นประชากรที่รักของพระองค์ หากความผิดพลาด การผิดจากพระประสงค์ของพระเจ้านำพาความเลวร้ายเข้ามาในชีวิตแบบแซมสัน สิ่งที่เราต้องทำคือถ่อมตัว ถ่อมใจของเราลง ยอมรับพระคุณความรักของพระเจ้า แล้วกลับใจจากบาป หันหน้ากลับมาหาพระเจ้า พระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะฟังคำร้องทูลและตอบคำอธิษฐานนั้น พระเจ้าก็ฟังเสียงของแซมสัน ประทานกำลังให้กับเขา แซมสันก็ใช้พละกำลังที่พระเจ้าประทานกลับมาให้นั้นดันเสากลางสองต้นล้ม เขาสามารถจัดการทุกคนที่นั้นได้ และเขาเองก็จบชีวิตที่นั่นด้วย ขอให้เรื่องราวนี้จะเป็นอุทาหรณ์สอนใจเรา ที่เราจะรักษาความสัมพันธ์กับพระเจ้าไว้ให้ได้ และให้ดีด้วยการเชื่อฟังทำตามถ้อยคำของพระเจ้าทุกประการ วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (299) จงรักงานของคุณ (Love Your Work) “สำหรับมนุษย์นั้นไม่มีอะไรดีไปกว่ากินและดื่ม กับ ชื่นชมผลจากการตรากตรำของเขา นี่แหละข้าพเจ้าเห็นด้วยว่าเป็นมาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า” ~ปัญญาจารย์ 2:24 THSV11 “There is nothing better for people to do than to eat, drink, and find satisfaction in their work. I saw that even this comes from the hand of God.” ~Ecclesiastes 2:24 GW พี่น้องที่รัก 1. ถ้าคุณไม่มีงานทำ จงไปหางานดีมีคุณค่า ที่ทำแล้วมีความสุข และลงมือทำโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องค่าตอบแทนเป็นประเด็นหลัก 2.ถ้าคุณมีงานทำอยู่แล้ว จงขอบคุณ ซาบซึ้ง กับงานที่ได้ทำ จงอย่าบ่น อย่าเลี่ยง อย่าอู้ หรือ อย่าทำแบบซังกะตาย จงเรียนรู้ที่จะชอบงานของคุณ และทำงานนั้นให้สนุกและดีที่สุด แต่หากว่าทำอย่างไรก็ไม่สนุก คุณก็สามารถเลือกงานใหม่ที่มีคุณค่าและคุณพอใจหรือชอบมากกว่า และลงมือทำอย่างมีความสุข ใช่ครับ คุณต้องเรียนรู้ที่จะชอบงานของคุณ เพราะว่า… “ 1.ถ้าคุณไม่ชอบงานของคุณ คุณต้องลงทุนพลังงานเป็นสามเท่า หนึ่งเพื่อบังคับตัวคุณเองให้ทำงาน สองเพื่อต้านทานแรงบีบบังคับให้ทำงานนั้น และท้ายสุดก็เพื่อทำงานนั้น 2.ถ้าคุณรักงานของคุณ ความปรารถนาที่จะทำงานของคุณ จะเป็นดุจลมที่บันดาลนาวาของคุณให้แล่นไป โดยใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 3.ถ้าคุณชอบงานของคุณ ก็เหมือนกับคุณไม่ได้ทำงาน เพราะเมื่อคุณชอบงานใด งานนั้นก็ไม่ใช่งานอีกต่อไป แต่เป็นความเพลิดเพลินบันเทิงใจ! 4.ถ้าคุณชอบงานของคุณ คุณก็จะทำงานและทำงาน โดยไม่มานั่งนับกาลเวลาที่ผ่านไป แล้วคุณจะได้เกี่ยวเก็บและสุขใจ กับรายได้ที่เพิ่มพูนเป็นทวีขึ้น!” พี่น้องที่รัก ขอให้เรา 1.กินดื่มอย่างมีความสุข 2.ให้สนุกและหาความอิ่มใจในงานที่ตัวเราทำ 3.ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งดีที่มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ (ผ่านงานที่เราทำ) 4.ให้คนรอบตัวและสังคมได้รับประโยขน์จากงานที่เราทำ (ปัญญาจารย์ 2:24 ) …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 23มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน เราจะจบอย่างไร? Ep.1175 แทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อว่าชีวิตของคนที่พระเจ้าตั้งใจให้เขาเกิดมาเพื่อทำพระประสงค์ของพระองค์จะมีจุดจบที่น่าเศร้า เรื่องราวนี้ถูกบันทึกถึงไว้เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับเราทุกคนว่า ทุกความสามารถนั้นมาจากพระเจ้า แต่บางเรื่องที่เรามีนั้นอาจจะดูพิเศษกว่าคนอื่น แต่สิ่งนั้นไม่ได้บอกว่าเราจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เรายังคงต้องทำทุกอย่างตามใจพระเจ้า ขอให้บทเรียนเรื่องจุดจบของแซมสันจะนำให้เราระมัดระวัง ใส่ใจที่จะรักษาชีวิตของเราให้เชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้าทุกประการ 'เจ้านายฟีลิสเตียประชุมกันเพื่อถวายเครื่องสัตวบูชายิ่งใหญ่แด่พระดาโกนพระเจ้าของเขาทั้งหลายและเพื่อชื่นชมยินดี เพราะพวกเขากล่าวว่า “พระเจ้าของเราได้มอบแซมสันศัตรูของเราไว้ในมือเราแล้ว” เมื่อประชาชนเห็นแซมสันก็สรรเสริญพระเจ้าของตนว่า “พระเจ้าของเราได้มอบศัตรูของเราไว้ในมือของเราแล้ว คือผู้ทำลายแผ่นดินของเราและสังหารพวกเราเป็นอันมาก” ' ผู้วินิจฉัย 16:23-24 เมื่อพระเจ้าละแซมสันไปแล้ว มือของมนุษย์ธรรมดาก็สามารถจับและควบคุมเขาได้ แซมสันเองเป็นเหตุให้พระอื่นได้รับการสรรเสริญ ขออย่าให้ชีวิตของเราเป็นเหตุให้พระเจ้าเสื่อมเสียพระเกียรติ หรือพระอื่นได้รับคำชื่นชม จะน่าเศร้าจริงๆ หากเราเองรับใช้อย่างดี ทำงานเกิดผล แต่จุดจบของเราทำให้พระอื่นได้รับคำชื่นชม ขอให้ชีวิตของเราจะมีอยู่เพื่อพระเจ้าจะได้รับคำสรรเสริญจากทุกสิ่งที่เราทำ มีตัวอย่างนึงที่ผมรักมากๆ จากเพื่อนๆของดาเนียล 'เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ผู้ทรงใช้ทูตสวรรค์มาช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่วางใจในพระองค์ ไม่ฟังคำบัญชาของกษัตริย์ และยอมพลีชีวิตของเขาเสียดีกว่าปรนนิบัติและนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของพวกเขาเอง เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎีกาว่า ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาคนใด ที่กล่าวลบหลู่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะถูกทึ้งแขนขาออกเสีย และบ้านเรือนของเขาจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย เพราะไม่มีพระอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้” ' ดาเนียล 3:28-29 ขอให้ชีวิตของเราจะเหมือนชัครัค เมชาค และอาเบดเนโก ที่ยอมตายดีกว่าที่จะกราบพระอื่น การยืนยันในพระเจ้านั้นทำให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สรรเสริญพระเจ้าของเรา และยังออกกฎหมายห้ามกล่าวลบหลู่พระเจ้าของเราด้วย ขอพระเจ้าเมตตานำให้เราที่จะระมัดระวัง ใส่ใจที่จะรักษาชีวิตในการเชื่อฟัง ให้เราใช้ทุกอย่างที่พระเจ้าประทานให้เพื่อบรรลุพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา ให้เราเริ่มต้นดี ระวังรักษาชีวิตให้ดีเพื่อที่เราจะจะจบสวย จบให้พระเจ้าได้รับเกียรติสมฐานะของพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุด วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (298) คุณมีอิทธิพลต่อใครบ้าง? “ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” ~มัทธิว 5:16 THSV11 “Make your light shine, so others will see the good you do and will praise your Father in heaven.” ~Matthew 5:16 CEV “อิทธิพล”(influence) หมายความถึง “อำนาจที่สามารถบันดาลให้ผู้อื่นต้องคล้อยตามหรือทำตาม อำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่างๆ“ คนบางคน กลายเป็นผู้อิทธิพลที่เรียกว่า” Influencers “โดยไม่รู้ตัว เพราะสิ่งที่เขาทำ ซึ่งอาจจะเป็น อิทธิพลใน 1).เชิงดีหรือ 2).เชิงไม่ดีก็ได้ ดังนั้นเราเองต้องระมัดระวังในสิ่งที่เราพูดหรือกระทำออกไป เพราะอาจจะมีคนทำตามสิ่งที่เราพูดหรือทำก็ได้! พระคัมภีร์มีตัวอย่างอะไรสอนบ้างในเรื่องเกี่ยวข้องกับการมีอิทธิพลเหนือคนอื่น? พระคัมภีร์สอนเราในเรื่องนี้ไว้หลายตอน อาทิ 1.เราทุกคนล้วนมีอิทธิพลต่อใครบางคนหรือต่อคนมากมาย ดุจ 1).เกลือ “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก”(มธ.5:13ก.) 2).แสงสว่าง “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก“(มธ.5:14ก.) 2.เราควรมีอิทธิพลในทางดี อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ~อย่าให้อิทธิพลดีๆของเราลดหายไป ”ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ “ (มธ.5:13) 3.เราควรมีอิทธิพลในทางที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนอยู่เสมอ ~อย่าให้มีสิ่งใดไปปิดบัง หรือกั้นขวางพระพรนั้น “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น” (มธ.5:14-15) 4.เราควรมีชีวิตที่เป็นอิทธิพลที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกจากความดีที่เราทำ ~อย่ามุ่งให้คนสรรเสริญเรา แต่ให้พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าของเรา “ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มัทธิว 5:16 ) พี่น้องที่รัก ขอให้เราเป็นทูต ตัวแทน หรือ ผู้ทรงอิทธิพลของพระเจ้าต่อสังคมและโลกนี้ ผ่านทางคำพูดและการกระทำของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้คำพูดของเรา 1.เปี่ยมด้วยความรักเมตตา ที่ให้ความหวังแก่ชีวิตของคนทั้งหลาย ~ดุจแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในความมืดมิดของหัวใจ 2.เปี่ยมล้นด้วยรสชาติ ที่ให้ความพึงพอใจและถูกหูคนฟัง ~ดุจปรุงด้วยเกลือรสดี “จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร” ~โคโลสี 4:6 THSV11 (Everything you say should be kind and well thought out so that you know how to answer everyone.) ~Colossians 4:6 GW วันนี้ คุณมีอิทธิพลในทางดี ต่อใครบ้าง ในเรื่องอะไร และอย่างไรบ้างครับ? …ช่วยบอกที! ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 23มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน ผลของสิ่งที่ทำ Ep.1174 ทุกอย่างที่เราทำจะมีผลตามมาเสมอ เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเยซู พระองค์คือผู้ที่มารับผลของบาปกรรมที่เราทำและความบาปที่ถูกส่งต่อมาถึงเราโดยทางพันธุกรรม ไม่ว่าจะผลกรรมใด รวมทั้งทุกการถูกผูกมัดทางฝ่ายวิญญาณจากวิญญาณต่างๆ ทุกอย่างถูกยกเลิกด้วยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่เรื่องราวของแซมสันที่เป็นบทเรียนที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเราในการที่เราจะรักษาความสัมพันธ์หรือความพิเศษที่พระเจ้าประทานให้กับเรา 'คนฟีลิสเตียก็มาจับท่านและควักลูกตาทั้งสองข้างของท่านเสีย แล้วนำท่านลงมายังเมืองกาซา เอาตรวนทองสัมฤทธิ์ล่ามไว้ และให้ท่านโม่แป้งอยู่ในเรือนจำ ' ผู้วินิจฉัย 16:21 เมื่อพระเจ้าจากแซมสันไป พละกำลังคือความพิเศษที่เขามีนั้นก็หายไป จากที่ไม่เคยมีอะไรจับเขาได้ วันนี้มนุษย์ธรรมดาก็สามารถจับเขามาลงโทษได้ ผมมองว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะแซมสันไม่สนใจในสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ เรื่องราวที่บันทึกถึงเขา สิ่งที่บันทึกไว้ส่วนใหญ่จะบันทึกถึงการละเมิดและการฝ่าฝื่นสิ่งที่พระเจ้าต้องการ แต่เรื่องราวนี้ก็ยังทำให้เราเห็นถึงพระคุณของพระเจ้า พระองค์ทรงใช้คนที่อ่อนแอและดื้อด้านได้ พระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่างได้แต่ทุกสิ่งนั้นจะมีผลตามมาเสมอ บางคนอาจจะคิดว่าผลนั้นมันเป็นเรื่องหลังความตาย มันไม่ได้เป๋นอย่างนั้นเสมอทุกอย่างอยู่ในเวลาของพระเจ้า 'ตั้งแต่โกนผมแล้ว ผมบนศีรษะของท่านก็ค่อยๆ งอกขึ้นมา ' ผู้วินิจฉัย 16:22 ในเรื่องเส้นผมที่ค่อยๆงอกขึ้นมานั้น ผมมองว่าสิ่งนี้ว่าเป็นพระคุณของพระเจ้าที่ไม่เคยหมดไป ความรักของพระเจ้านั้นยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง พระเมตตา พระคุณของพระเจ้ายังมีมาถึงเราทุกวัน เป็นของสดใหม่ ที่อบอุ่น หอมอบอวนเหมือนขนมปังอบใหม่ หากเราละเลย ละเมิด หรือกบฎต่อพระเจ้า สิ่งที่พระเยซูตรัสไว้คือ จงกลับใจเสียใหม่ รีบเลยนะครับ เดี๋ยวไม่ทันเวลา พระคุณของพระเจ้ามีพอเพียงกับเราทุกคน เพียงเราต้องเขื่อฟัง และวางใจในความรักของพระเจ้าที่มาถึงเราทางพระเยซูอย่างจริงจัง วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (297) ใครเป็นที่ปรึกษาของคุณ? “พระโอวาทของพระองค์เป็นความปีติยินดี ของข้าพระองค์ เป็นที่ปรึกษาของข้าพระองค์!” ~สดุดี 119:24 THSV11 “Yes, your laws are my joy— they are my most trusted advisors!” ~Psalms 119:24 CEB มีคำถามว่า “เวลาคนเรามีปัญหา มีอุปสรรค หรือมีเรื่องยากๆที่จะต้องจัดการ พวกเขามักจะไปปรึกษาใคร หรืออะไร ก่อนที่จะลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง?” คำตอบ: “เวลาคนเรามีปัญหา หรือเวลาพบเรื่องยากๆในชีวิต คนเรามักจะไปปรึกษาหรือไปขอคำตอบจาก สิ่งต่อไปนี้ก่อน นั่นคือ 1.Sense ที่เรียกว่าทำตาม Common Sense(สามัญสำนึก)บอก คือตั้งสติคิด หาเหตุปัจจัย ก่อนตัดสินใจเลือกรับมือกับอุปสรรคปัญหาเบื้องหน้า 2.Spontaneusness ที่เรียกว่าทำตาม“สัณชาตญาณ”ของตัวเองบอก ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 3.Sign ที่เรียกในแง่บวกว่า “หมายสำคัญ”(จากพระเจ้า) หรือในทางลบว่า “ลางสังหรณ์” 4.Situation ที่เรียกว่า “สถานการณ์”พาไป ต้องตัดสินใจในทันทีชักช้าไม่ได้ อาจถูกหรือผิดก็ได้ 5.Specialist ที่เรียกว่า “ผู้เชี่ยวชาญ”(Expert) กูรู ผู้รู้ ที่ปรึกษา หรือ influencer” 6.Sorcerer ที่เรียกว่า “หมอผี พ่อมด ผู้ทำไสยศาสตร์ เวทย์มนตร์ หรือเกจิอาจารย์“ 7.Spouse ที่หมายถึง“สามีภรรยา” ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ต้องปรึกษาถ้าต้องการปลอดภัย 8.Soul mate ที่หมายถึง “เพื่อนสนิท คนรู้จักที่เข้ากันได้ดี จึงมักใช้หมายถึงคนรัก หรือคู่รักกัน“ 9.Search engine ที่หมายถึง เครื่องมือ หรือโปรแกรมสำหรับค้นหาข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ต เช่น กูเกิล Chat GPT 10.Scriptures ที่หมายถึง ”พระคัมภีร์“ หรือพระวจนะของพระเจ้า พี่น้องที่รัก แล้วตัวของคุณล่ะ เวลาที่คุณต้องการคำแนะนำหรือคำปรึกษาในเรื่องสำคัญๆ คุณจะไปหาใครหรือไปหาอะไรเพื่อจะได้คำตอบเหล่านั้น? ผู้เขียนพระธรรมสดุดีแนะนำว่าให้เราไปหาพระเจ้าหรือพระวจนะของพระองค์ ที่ปัจจุบันนี้เราเรียกว่าพระคัมภีร์(Scriptures) เพราะว่า “พระโอวาท บัญญัติ หรือ กฎเกณฑ์ กฎหมาย ของพระเจ้าเป็นความปีติยินดีของเรา และถ้อยคำเหล่านั้น เป็นที่ปรึกษาที่เราไว้วางใจ มากที่สุด!” ~สดุดี 119:24 พี่น้องที่รักคุณ 1. เห็นด้วย และ 2. พร้อมที่จะเข้าหาพระคัมภีร์เพื่อเปิดอ่าน หรือ รับฟัง ในทุกครั้งที่คุณต้องการคำปรึกษา สำหรับเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของคุณหรือไม่? แท้จริงแล้ว ถ้าคุณ เข้าเฝ้าพระเจ้าทุกครั้งที่คุณ 1.ตื่นนอน หรือ 2.ก่อนเข้านอน เพื่อ 1).ปรึกษาพระองค์ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ผ่านการอธิษฐาน และ 2).รับคำแนะนำจากพระองค์ผ่านการอ่านพระคัมภีร์ ทุกวัน คุณก็แทบจะไม่มีเรื่องใหญ่ ปรึกษาพระองค์เลย เพราะว่า ทุกสิ่งที่ 1.คุณคิด 2.คุณพูด 3.คุณขอ และ 4.คุณทำ จะสอดคล้องกับพระทัย และพระประสงค์ของพระเจ้า และทุกสิ่งที่คุณทำ จะนำพระพรกลับมาสู่คุณและกระจายไปสู่คนอื่นๆด้วยเสมอ …คุณเชื่อหรือไม่ครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 22มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (296) ข้อคิดดีมีพลัง! “ความตายและชีวิตอยู่ในอำนาจของลิ้น และผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน” ~สุภาษิต 18:21 THSV11 “The tongue has the power of life and death, and those who love it will eat its fruit.” ~Proverbs 18:21 NIV 1 ”ถ้าเราเหนื่อย จงรู้จักพัก ถ้าเขาหมดรัก จงรู้จักพอ!“ “อย่าโหมงานจนอ่อนล้าเพื่อจะเป็นคนมั่งมี จงฉลาดพอที่จะหยุดพัก” ~สุภาษิต 23:4 THSV11 “Do not wear yourself out getting rich. Be smart enough to stop.” ~Proverbs 23:4 GW 2 ”เราไม่อาจควบคุมวิถีที่คนอื่นปฏิบัติต่อเรา แต่เราสามารถควบคุมวิถีที่เราตอบสนองต่อเขาได้!“ “ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน” ~โรม 12:18 THSV11 “As much as it is possible, live in peace with everyone.” ~Romans 12:18 GW 3 ”ถ้าผิดพลาดแล้วทำให้เราถ่อมใจลง ก็ดีกว่า ถูกต้องแล้วทำให้เราหยิ่งจองหอง!“ “ใจของคนจะผยองก่อนถึงการถูกทำลาย แต่ความถ่อมตัวมาก่อนเกียรติ” ~สุภาษิต 18:12 THSV11 “Pride leads to destruction; humility leads to honor.” ~Proverbs 18:12 CEV 4 “พระเจ้าทรงรับผิดชอบผลลัพธ์จากการเชื่อฟังของเรา แต่เราต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์จากการไม่เชื่อฟังของเราเอง!” ~ชารลส์ แสตนเล่ย์ “เช่นเดียวกับประชาชาติซึ่งพระยาห์เวห์ทรงทำให้พินาศไปต่อหน้าพวกท่าน ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างนั้นแหละ เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียง ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 8:20 THSV11 “The Lord is going to destroy other nations as you enter the land. You will be destroyed like them if you don’t obey the Lord your God.” ~Deuteronomy 8:20 GW 5 ”หนึ่งในเรื่องน่าสะเทือนใจ ก็คือ เมื่อคนโกหกพูดความจริงแล้วไม่มีใครเชื่อ!“ “คนบ้าขว้างดุ้นไฟ ลูกธนู และความตายฉันใด คนที่ล่อลวงเพื่อนบ้านของตน และกล่าวว่า “ข้าล้อเล่น” ก็ฉันนั้น” ~สุภาษิต 26:18-19 THSV11 “Like a madman who shoots flaming arrows, arrows, and death, so is the person who tricks his neighbor and says, “I was only joking!”” ~Proverbs 26:18-19 GW …จะอาเมนไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 21มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (295) คุณชอบบ่นหรือไม่? “อย่าให้เราบ่นเหมือนบางคนในพวกเขาได้ทำ แล้วต้องพินาศด้วยองค์เพชฌฆาต” ~1 โครินธ์ 10:10 THSV11 “And do not grumble, as some of them did— and were killed by the destroying angel.” ~1 Corinthians 10:10 NIV Billy Graham(1918~2018) กล่าวว่า “การพร่ำบ่นและการกตัญญูรู้คุณเป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้สำหรับลูกๆของพระเจ้า จงมีใจกตัญญูรู้คุณ แล้วคุณจะไม่พร่ำบ่น ถ้าคุณพร่ำบ่น คุณจะไม่กตัญญูรู้คุณ!” (Grumbling and gratitude are, for the child of God, in conflict. Be grateful and you won't grumble. Grumble and you won't be grateful.) อาจารย์เปาโลก็เตือนในเรื่องนี้ โดยยกเรื่องที่ชาวอิสราเอลพร่ำบ่นในถิ่นทุรกันดาร ในขณะที่โมเสสนำพวกเขาออกมาจากการเป็นทาสในอียิปต์ นั่นคือแทนที่พวกเขาจะซาบซึ้งรู้คุณและยินดีที่พระเจ้ากำลังนำพวกเขาไปสู่ดินแดนเสรี แต่พวกเขา 1.กลับเอาแต่บ่นถึงถึงความลำบาก จากนั้นก็ 2.ชุมนุมกันก่อหวอด ต่อต้านและ 3.ต่อสู้กับโมเสส นำโดยโคราห์ ดาธาน อาบีรัม และโอน พร้อมกับผู้ชายอิสราเอลจำนวน 250 คน ซึ่งเป็นผู้นำของชุมนุมชนที่เลือกมาจากที่ประชุม และเป็นคนมีชื่อเสียง ผลที่ตามมาคือ แผ่นดินอ้าปากกลืนเขาทั้งหลายกับครัวเรือน และคนทั้งหมดของโคราห์กับข้าวของทั้งหมดของเขา และไฟออกมาจากพระยาห์เวห์ก็เผาผลาญคนทั้ง 250 ที่ถวายเครื่องหอมนั้น! (กันดารวิถี 16:1-3, 27, 32, 35 ) แต่แทนที่พวกเขาจะสำนึกตัว พอรุ่งขึ้น 1.พวกเขาก็บ่นต่อว่าโมเสสและอาโรนอีกว่า “ท่านทั้งสองทำให้คนของพระยาห์เวห์เสียชีวิต!” 2.พวกเขามาชุมนุมต่อต้านโมเสสและอาโรนอีกรอบ จึงเป็นเหตุให้พระเจ้า 1).ทรงพระพิโรธ และ 2).ทรงบันดาลให้เกิด ภัยพิบัติมีคนตายอีก 14,700 คน ไม่นับคนที่ตายด้วยเรื่องของโคราห์! (กันดารวิถี 16:41-43, 45-46, 48-50 ) ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า 1.การบ่นว่าจะนำภัยพิบัติมาอย่างรุนแรงมาให้เราอย่างน่าสยดสยอง 2.การบ่นเป็นการอกตัญญูที่ทำลายความสุขในชีวิตของเราอย่างโง่เขลา 3.การบ่นเป็นการมองข้ามพระพรในชีวิตไปอย่างน่าเศร้าใจ เพราะแทนที่ 1).เราจะขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งดีๆที่เราได้รับมาทั้งจากพระเจ้าและจากคนอื่น 2).เรากลับนำความทุกข์โศกและหายนะมาสู่ตัวเองและคนที่อยู่กับเราอย่างไม่สมควร พี่น้องที่รัก พวกเราน่าจะเห็นด้วยกับ Alphonse Karr (1808-1890) ที่กล่าวว่า ” คนบางคนมักชอบบ่นที่ต้นกุหลาบมีหนาม แต่ผมรู้สึกขอบคุณที่ต้นหนามนั้นมีดอกกุหลาบ!“ (Some people are always grumbling because roses have thorns; I am thankful that thorns have roses.) ใช่ครับ มีเหตุผลมากมายที่ 1.ใจของเราควรจะซาบซึ้ง และ 2.ปากของเราควรจะกล่าวคำขอบคุณ สำหรับสิ่งที่เรามีอยู่ มากกว่าจะหาเรื่องบ่นว่า แล้วทำให้ตัวเองและคนอื่นๆที่ได้ยิน หมดความสุขไปอย่างน่าเสียดาย เหมือนกับที่คุณ วินทร เลียววาริณ กล่าวไว้ว่า “1.คุณบ่นว่าคุณไม่รวย แต่ข้างนอกโน้นมีคนยากจนที่อยากมีฐานะอย่างคุณ 2.คุณบ่นว่าบ้านคุณเล็ก แต่ข้างนอกโน้นมีคนไร้บ้านที่เห็นว่าบ้านคุณเป็นสวรรค์ 3.คุณบ่นว่ารถคุณเก่า แต่ข้างนอกโน้นมีคนที่เห็นว่ามันเป็นรถดีเลิศ 4.คุณบ่นว่าเสื้อผ้าเก่า แต่ข้างนอกโน้นมีคนไร้เสื้อผ้าที่อยากได้เสื้อผ้าคุณ 5.คุณบ่นว่าคุณมีปัญหาสุขภาพ แต่ข้างนอกโน้นมีคนป่วยหนักที่อยากมีสุขภาพแบบคุณ 6.คุณบ่นว่างานที่ทำน่าเบื่อ แต่ข้างนอกโน้นมีคนตกงานที่อยากได้งานของคุณ 7.คุณบ่นว่ารายได้ต่ำต้อย แต่ข้างนอกโน้นมีคนที่ไม่มีกิน อยากได้งานของคุณ 8.คุณไม่ชอบชีวิตของคุณ แต่ข้างนอกโน้น มีคนที่อิจฉาคุณ …อย่ามัวแต่มองสิ่งที่ตนไม่มี หัดมองเห็นค่าของสิ่งที่มี” พี่น้องที่รัก 1.ขอให้เราห่างไกลจากการชอบบ่นว่า และ 2.ขอให้เรามีใจขอบพระคุณเสมอสำหรับทุกสิ่งที่เราได้รับมา ดังที่อาจารย์เปาโลกำชับไว้ว่า “จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์” ~1 เธสะโลนิกา 5:18 THSV11 “give thanks in all circumstances; for this is God’s will for you in Christ Jesus.” ~1 Thessalonians 5:18 NIV …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 20มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
Loading …

Chào mừng bạn đến với Player FM!

Player FM đang quét trang web để tìm các podcast chất lượng cao cho bạn thưởng thức ngay bây giờ. Đây là ứng dụng podcast tốt nhất và hoạt động trên Android, iPhone và web. Đăng ký để đồng bộ các theo dõi trên tất cả thiết bị.

 

Hướng dẫn sử dụng nhanh

Nghe chương trình này trong khi bạn khám phá
Nghe